ป้ารัตน์ แม่ค้าลอตเตอรี่ รำแก้บนพระแม่นารายณ์เจงเวง สถานที่ต้นเรื่องหวยอลเวง 12 ล้าน หลังสำนักอัยการไม่สั่งฟ้องหลักฐานไม่เพียงพอ เย็นวานนี้ (6 พ.ย.65) ที่บริเวณลานหน้าพระธาตุนารายณ์เจงเวง ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร นางรัตนา ภูละคร อายุ 58 ปี แม่ค้า ลอตเตอรี่ คดีฟ้องร้องถูกกล่าวหายักยอก ลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 จำนวน 2 ใบ 12 ล้านบาท และสุดท้ายอัยการจังหวัดสกลนคร สั่งไม่ฟ้อง ได้นำเครื่องบวงสรวงผลไม้ 9 อย่าง คำหมาก คำภู คำตอกดอกไม้ น้ำเปล่า 9 ขวด ธูป เทียน ขันธ์ 5 ขันธ์ 8
ตั้งโต๊ะแก้บนหน้าองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง และมีนางรำ 9 คน รวมกับนางรัตนา หรือ ป้ารัตน์ แต่งกายด้วยชุดภูไทพื้นเมืองสกลนคร มารำถวาย โดยก่อนเริ่มพิธี ป้ารัตนา ก็เขียนชื่อและคำที่เคยอธิฐานไว้ ก่อนจะจุดธูป กล่าวคำนมัสการองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง และฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมือง รวม 3 เพลง อาทิ เพลงไป หลังเสร็จการรำถวายเสร็จ ป้ารัตนา ก็กล่าวขอบคุณเพื่อนๆนางรำและผู้ที่มาร่วมให้กำลังใจ ก่อนจะนำแผงลอตเตอรี่ มาเปิดให้โชคทุกคนได้หยิบคนละ 1 ใบ รวมทั้ง 15 ใบ
ก่อนจะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เคยบนไว้ว่าขอให้คดีหวยคดี 12 ล้าน จากหนักกลายเป็นเบา เป็นไปในทางที่ดี ป้ารัตนา กล่าวว่า “เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดที่หน้าองค์พระธาตุนารายณ์เจงเวง เมื่อปี 2564 ตนเองมาขายลอตเตอรี่ ในช่วงที่กำลังจะมีการรำบวงสรวงองค์พระธาตุ ประเพณีประจำปี และตนเองก็มีบ้านอยู่ใกล้ในชุมชนดังกล่าว ตนเองมีความศรัทธาในพระแม่นารายณ์เจงเวง เพราะตามตำนานผู้หญิงเป็นคนก่อสร้างพระธาตุนารายณ์เจงเวง ส่วนใหญ่ผู้หญิงมาขอพร หรืออธิฐาน ก็จะสมปรารถนา
จากนางรัตนา ภูละคร อายุ 58 ปี แม่ค้า ลอตเตอรี่ ที่นำไปขาย ภายในในวัดพระธาตุนารายณ์เจงเวง เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.64 ซึ่งวันดังกล่าว นางไพมณี ได้เป็นนางรำบวงสรวงงานเทศกาลบุญเดือนสี่ จึงไม่ได้พกกระเป๋าเงินติดตัว จึงขอจอง ลอตเตอรี่ ไว้ด้วยการเขียนชื่อ “ไพมณี” สลักหลัง ลอตเตอรี่ ทั้ง 2 ใบไว้แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน จนภายหลังการออกรางวัล ทราบว่าถูกรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 12 ล้านบาท จึงไปทวงถาม ลอตเตอรี่ กับนางรัตนา โดยอ้างว่าขายให้คนอื่นไปแล้ว และจำไม่ได้ว่าขายให้ใคร
เนื่องจากนางไพมณีไม่ได้ติดต่อกลับมาหลังจากจอง ลอตเตอรี่ ไว้ และยังไม่จ่ายเงิน ส่วนสาเหตุที่ต้องขายออกไปเพราะใกล้วันหวยออก จึงไม่มั่นใจว่านางไพมณี ยังต้องการ ลอตเตอรี่ อยู่หรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นฟ้องร้องกันมากว่า 1 ปี ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ส.ค.65 นางรัตนา หรือ ป้ารัตนา พร้อมด้วย นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร เพื่อขอรับหนังสือแจ้งความคืบหน้าของคดี โดยเป็นหนังสือจากทางสำนักงานอัยการจังหวัดสกลนคร แจ้งกลับมายัง สภ.เมืองสกลนคร แจ้งคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนางรัตนา ภูละคร ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ โดยมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 352